เจ้าของสถิติบอลลีก ลงเล่นมากที่สุด

เจ้าของสถิติบอลลีก

แกเร็ธ แบร์รี่ กองกลางมากประสบการณ์ เจ้าของสถิติบอลลีก ลงเล่นมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฟุตบอลรายการสูงสุดบนเกาะอังกฤษ ซึ่ง แบร์รี่นั้น ลงเล่นไปทั้งหมด 633 นัด ทำลายสถิติที่ ปีกพ่อมดแห่งรังปีศาจแดง ได้เคยทำไว้ 632 นัด ที่เท้าได้ลงมาสัมผัสหญ้า บนเวที พรีเมียร์ลีกอังกฤษ แต่อย่างไรก็ตาม ยอดกองกลางที่ไม่คิดจะออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ยังต่างประเทศ เพราะ ความรักบ้านเกิดนี้เอง จึงทำให้ “แกเร็ธ แบร์รี่” ย้ายสโมสรมาแล้ว 4 ทีม และทุกสโมสร คือ สโมสรที่เล่นในพรีเมียร์ลีกทั้ง 4 สโมสร ได้แก่

ปี                               สโมสร                                ลงเล่น            ประตู

1998–2009                  แอสตันวิลลา                  365                 41

2009–2014                  แมนเชสเตอร์ซิตี            132                  6

2013–2017                  เอฟเวอร์ตัน                      131                  5  (รวมสัญญาการยืมตัว)

2017–ปัจจุบัน             เวสต์บรอมมิช                    1                      0

19 ปีในการลงเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก เขายังสามารถทำสถิติอีก 1 สถิติ คือ การได้ลงสนามเป็นผู้เล่นตัวจริงติดต่อกันถึง 600 นัด  โดยสถิติของผู้ชายสายเลือดอังกฤษคนนี้ จะให้เดินมอง, นอนมอง, ตะแคงมอง หรือจะใช้วิธีอื่นๆมองก็แล้ว คงไม่สามารถมีผู้ใดที่จะมาทำลายสถิติ 3 สถิตินี้ลงไปได้ในเวลาอันสั้นนี้อย่างแน่นอน เพราะจากสถิติผู้เล่นที่ใกล้เคียงที่พอจะทำลายมันลงได้นั้น คือ “จอน เทอรี่” ที่อยู่ในอันดับ 14 ของตารางสถิตินี่   ก็เพราะตั้งแต่ อันดับ 2-13 นั้น ล้วนแล้วแต่แขวนสตั๊ดกันไปแล้วทั้งสิ้น ส่วน เทอร์รี่ ก็มีจำนวนนัดที่ลงสนามห่างกันอยู่ถึง 141 นัดเลยทีเดียว  ผมว่าคงอีกสัก 1 ชาติละครับ ที่สถิติเหล่านี้จะถูกทำลายลง

ตำแหน่งแชมป์บอลล่าสุด

“ดิเอโก้ คอสต้า” ศูนย์หน้าตัวปัญหาของ เชลซี ตำแหน่งแชมป์บอลล่าสุด ยังคงอยู่ในประเทศบราซิล และไม่มีวี่แววว่าจะกลับ มาเข้าแคมป์กับเชลซีอย่างแน่นอน  แม้ว่าสโมสรจะออกโรงเตือนแล้วว่าเตรียมยื่นฟ้องศาล เพราะไม่ยอมมารายงานตัวตามกำหนด แต่ยังคงรับค่าเหนื่อยจากสโมสรตามเดิม ซึ่ง คอสต้า ก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด

อาจเป็นเพราะไม่พอใจตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ “คอนเต้” กุนซือของทีมส่งข้อความไปบอกว่าเขาไม่อยู่ในแผนการทำทีม ขณะที่ คอสต้า  บอกชัดเจนตั้งแต่เกิดเรื่องว่าเขาอยากย้ายกลับไปเล่นให้  “แอตเลติโก มาดริด” สโมสรเดิมก่อนที่เข้าจะย้ายมาเล่นให้กับ เชลซี

ทางฝั่งของ ตราหมี “แอตเลติโก มาดริด” ที่มี “ซิเมโอเน่” เป็นผู้จัดการทีมอยู่ในขณะนี้ ก็แสดงเจตจำนงแก่เหล่าผู้บริหารสโมสร แอตเลติโก มาดริด ว่าต้องการตัวศูนย์หน้าตัวปัญหาของเชลซีกับมายังถิ่นเก่าเพื่อมาถล่มประตู แทนที่ อองตวน กรีซมันซ์ ศูนย์หน้าคนปัจจุบัน ที่มีเปอร์เซนต์การย้ายสโมสรไปสวมเสื้อหมายเลข 7 สืบสานตำนานให้แก่สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ “โชเซ่ มูรินโญ่” ตั้งใจที่จะเก็บหมายเลขเสื้อเบอร์ 7 เอาไว้เพื่อที่จะรอ “กรีซมันส์” มาเป็นเจ้าของ

ส่วนทางด้านสื่อในวงการบ่อนพนันบอลที่ถูกกฏหมายในประเทศอังกฤษ นั้นก็ให้ความเห็นถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า มีเปอร์เซนต์ที่สูงมากที่ แอตมาดริด จะต้องเสียกรีซมันส์ให้แก่ปีศาจแดง เพราะไม่เช่นนั้น แอตมาดริดคงไม่กล้าที่จะทุ่มเงินจำนวน 55 ล้านยูโร เพื่อดึงจอมถล่มประตูอย่าง “อิเดโก้ คอสต้า” กลับมาสู่ถิ่นเดิมอย่างแน่นอน

แชมป์บอลคาราบาวคัพ

จบไปอีกหนึ่งรายการ แชมป์บอลคาราบาวคัพ ครั้งนี้ตกเป็นของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟอร์มกำลังมาแรง ผลการแข่งขันเจอกับทีม อาร์เซน่อล 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ทีผ่านมา

เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือยุคใหม่ที่เข้ามาคุมทีมได้เมื่อช่วงปี 2016-17 ออกสตาร์ทฤดูกาลอย่างยิ่งใหญ่ด้วยผลงานสร้างสถิติชนะ 16 เกมติดในพรีเมียร์ลีด อังกฤษ ยิ่งวเป็นการการันตีคุณภาพของเขาด้วยความแชมป์ถ้วยแรกตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เป้าหกมายการครอง ทริปเปิ้ลแชมป์ พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก, คาราบาว คัพ ตอนนี้คืบหน้าเป็นอย่างมากโดบฤดูกาลนี้ลูกทีมเขาถล่มประตูไปแล้วทั้งสิ้น 116 ลูก กลับกันทาง อาร์เซน่อล กระบอกปืนฝืดขึ้นมาก่อนหน้านี้ทุ่มเงินเพื่อซื้อตัวนักเตะไปกว่า 70 ล้านปอน์ด แล้วก็ตามทั้งกรานิต ชาคา และ ชโครดาน มุสตาฟี่ แต่ผลงานกลับออกมาไม่คุ้มค่าที่เสียไปซักเท่าไหร่ แม้กระทั้งปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ศูนย์หน้าค่าตัวแพง กลับพลาดโอกาสยิงหน้าประตูจังๆไปเป็นผลเสียโอกาสของทีมไปโดยปริยาย

ในวันที่เหล่าผู้เล่นอาร์เซน่อล ต่างพากันถอดใจกับรูปเกมและสกอร์ที่ออกมา แต่มีผู้เล่นคนหนึ่งที่ไม่ยอมที่จะปล่อยให้ความผิดหวังเข้ามาครอบงำในจิตใจ เขาคนนั้นคือเด็กปั้นของสโมสร ที่จงรักภักดี นั่นก็คือ แจ๊ค วิลเชียร์ คคลิกในสนามของวิลเชียร์ คือเครื่องหมายการค้าที่แฟนปืนใหญ่เห็นได้ทุกนัด และในเกมนี้เขาก็โชว์สิ่งนี้ออกมาให้ทุกคนได้เห็น ผิดกับเพื่อนร่วมทีมที่เล่นเหมือนคนไร้ใจ

นักบอลระดับโลก กับยอดไอจีฟอโล่ว

ช่องทางการติดตาม นักบอลระดับโลก ปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางทั้งสื่อข่าว โซเชี่ยลมีเดียอย่าที่ฮ็อตฮิต ตอนนี้คืออินสตราแกรม แอพที่ไว้ลงรูปพร้อมแคปชั่นสั้นๆ มีแฮชแท็คส่วนตัวเอาไว้ให้ติดตาม

ซึ่งในฟุตบอลโลก 2018 นี้เอง นักเตะส่วนใหญ่ล้วนมีไอจีเป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่ละรายมีผู้ติดตามหลายล้านคนซึ่งในพรีมเยร์ลีก อังกฤษ นี้เราได้คัดผู้เล่นแต่ละทีมยอดโอลโลว์สูงสุดมาให้เป็นหนึ่งผู้ติดตามกัน อันดับ 1 เป็นใครไปไม่ได้นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเขา เจ้าของบัลลงดอร์คนล่าสุด คริสเตีนโน่ โรนัลโด้ เป็นทั้งนักเตะระดับโลกและเจ้าของพรีเซนเตอร์สินค้าชั้นนำหลายอย่างไม่แปลกใจเลยว่าจำนวนผู้ติดตามกว่า 122 ล้านคน ทำให้ยอดไลค์แต่ละรูปพุ่งไปเป็นแสนๆ ผลงานตอนนี้เจ้าตัวได้ไปเล่นบอลโลกที่รัสเซีย เป็นครั้งสุดท้ายละน่าไม่ใช่เรื่องยากที่สานความสำเร็จของทีมโปรตุเกสต่อไป

อันดับสอง เนย์มาร์ ยอดค่าตัวสูงสุดในโลกอีกรายปัจจุบันด้วยราคา 222 ล้านยูโร แข้งบราซิลรายนี้ทั้งบุคลิก และลีลาการเล่นของเขาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวบอลโลกครั้งนี้เองยังต้องมาลุ้นว่าเจ้าตัวจะหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้หรือไม่

อันดับสาม ลีโอเนล เมสซี่ ชาติอาร์เจนติน่า รายนี้ขวัญใจแฟนบอลรายนี้เพิ่งเปิดบัญชีไอจีได้ราว 2 ปี แต่มียอดติดตามพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเขาคือนักเตะอัจฉริยะ ที่คว้าแชมป์มาแล้วทุกอย่่างกับบาร์เซโลน่า แต่น่าเหลือเชื่อว่า กับทีมชาติ เขายังไม่เคยได้แชมป์อะไรเลยแม้แต่โทรฟี่เดียว ซึ่งนี่อาจเป็นบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว และเป็นโอกาสเดียวที่จะได้แชมป์โลก

ศึกบอลจ้าวยุโรป

สุดสัปดาห์นี้เตรียมพร้อมกับการรอศึกยิ่งใหญ่แห่งประวัติศาสตร์วงการลูกหนัง ศึกจ้าวยุโรป นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ระหว่างทีม ลิเวอร์พูล ทีมดังจากอังกฤษ เจอกับ เรอัล มาดริด ยอดทีมสเปน ก่อนประเดิมศึกนี้เรามาดูประเด็นน่าสนใจกันก่อน

เริ่มต้นฤดูกาลนี้เป็นเกมการแข่งที่ยอดเยี่ยมของลิเวอร์พูล ด้วยการเข้าชิง แชมป์เปี้ยนส์ลีก ได้ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ที่ทีมหงส์แดงทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ หลังจากเข้าชิงได้ครั้งแรกเมื่อปี 2007 แต่ก็พ่ายต่อเอซี มิลาน โดยก่อนหน้านี้เคยเข้าชิงเอซี มิลานและคว้าแชมป์ที่อิสตัลบลูไปครองได้ในปี 2005 คว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรปสมัยที่ 5 ได้สำเร็จ มาลุ้นกันว่าครั้งนี้หงส์แดง จะคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ได้หรือเปล่า ผลงานที่ผ่านมาลิเวอร์พูล ดูดีกว่า เรอัลมาดริด ผลงาน 5 ครั้งที่เจอกันในถ้วยยุโรป โดยหงส์แดงสามารถเอาชนะไปได้ 3 ครั้ง ถ้วยยูโรเปี้ยน คัพ 1981 กับ แชมป์เปี้ยนส์ลีก ปี 2009 อีก 2 ครั้ง อีกหนึ่งความน่าสนใจ เจอร์เก้น คล็อปป์ เป็นบุคคลที่พาหงส์แดงผงาดด้วยฟอร์มยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ แท็กติกของเขาช่วยทีมได้อย่างมาก โดยเฉพาะการเจอทีมเก่าดอร์ทมุนด์ เอาชนะ เรอัล มาดริด มาแล้วถึง 3 ครั้ง เสมอ 1 แพ้ไปเพียง 2 ครั้งท่านนั้น

ด้วยฟอร์มร้อนแรงตอนนี้เจ้าของบัลลง ดอร์ รายล่าสุด โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวเตะอียิปต์ วัย 25 ปีเป็นที่พูดถึงมากที่สุด ไม่ว่านัดไหนที่ลงเป็นต้องมีสกอร์ถล่มทลายเป็นคีย์แมนคนหลักที่ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์รายการนี้อีกด้วย

บทความเเนะนำวันนี้