ความนิยมในการรับชมมวยไทยในปัจจุบันนี้ลดน้อยลงอย่างหน้ากลัวมากๆ ดูได้จากสนามมวยที่แต่ก่อนเคยมีรายได้เป็นหลักแสนหลักล้านในแต่ละวัน แต่มาปัจจุบันนี้การที่สนามมวยที่จัดการแข่งขันจะมองหาผลกำไรจากการชกในแต่ละวัน มันช่างเหมือนกับคุณกำลังนั่งมองแสงไฟจากเทียนที่จุดอยู่กลางบ้านเวลาไฟดับแล้วคอยภาวนาว่าอย่ามีลมพัดมาให้ไฟจากเทียนดับลงเลย ซึ่งการแข่งขันมวยไทยในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะมีผู้ทรงอำนาจในบ้านของเราหรือคนใหญ่คนโตในวงการมวยอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น ที่ค่อยชี้เป็นชี้ตายให้แก่มวยคู่นั้นๆ รวมไปถึงชี้แพ้เป็นแพ้ชี้ชนะเป็นชนะให้กับกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวทีให้ตัดสินไปตามที่ตนออกคำสั่ง มันจึงดูว่ากีฬามวยไทยในบ้านของเรามันช่างน่าเบื่อและไม่โปร่งใส คุณผู้อ่านลองคิดดูว่าเสน่ห์ของการเชียร์กีฬาจริงๆแล้วมันคืออะไร แต่ส่วนตัวของผมแล้วเสน่ห์ในการรับชมหรือเชียร์กีฬานั้นคือการได้ลุ้นหรือเอาใจเชียร์นักชกที่ขึ้นชกอยู่ อย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อให้คนที่เราเชียร์ได้รับชัยชนะ แล้วมันจะแปลงอะไรละครับที่ สนามมวยไทยในปัจจุบันอย่างสนามมวยเวทีลุมพินีหรือสนามมวยเวทีราชดำเนินนั้นมีจำนวนประชากรลดน้อยลง จนบางครั้งการจัดมวยขึ้นมาแล้วขาดทุนย่อยยับ ก็เพราะว่าถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่านักชกที่คุณเชียร์มันล้มมวยหรือขึ้นชกไปก็ต้องแกล้งแพ้ แล้วคุณจำเป็นด้วยหลอที่ต้องยอมเสียเงินซื้อบัตรผ่านประตูเพื่อเข้าไปรับชมคู่มวยที่คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าลุ้นให้เสียงแหบเสียงแห้งเพียงใดก็แพ้อยู่ดี แต่จนตอนนี้ก็คงไม่มีใครกล้าที่จะฟันธงได้ว่า เหตุผลที่เกิดขึ้นกับวงการมวยไทยในปัจจุบันนี้ มันเป็นเพราะกรรมการผู้ชี้ขาดบนเวทีหรือเป็นเพราะเซียนแทงมวยไทยขาใหญ่กันแน่ แต่อย่างว่าตบมือข้างเดียวแล้วดังลั่นก็ยอดมนุษย์แล้วละครับ
